Last updated: 15 ก.พ. 2564 | 2644 จำนวนผู้เข้าชม |
ข้อแตกต่างระหว่างหน้ากากอนามัย (Surgical masks) กับ หน้ากากกรองอนุภาค (Respirators)
ก่อนอื่นเราต้องมารู้ความหมายของหน้ากากทั้ง 2 ประเภทกันก่อน
หน้ากากอนามัย (Surgical masks)
หน้ากากอนามัยจะผลิตจากใยสังเคราะห์ โดยจะมีชั้นกรองตั้งแต่ 3 ชั้นขึ้นไป ซึ่งจะช่วยป้องกันเชื้อโรค ฝุ่นละออง ของเหลว และมลพิษจากภายนอก และช่วยป้องกันไม่ให้สารคัดหลั่ง เชื้อไวรัส ชื้อแบคทีเรีย ของจากการไอจามจากผู้ใช้ โดยจะสามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ประมาณ 3-5 ไมครอน
หน้ากากกรองอนุภาค (Respirators masks)
หน้ากากกรองอนุภาคจะจัดอยู่ในกลุ่มของอุปกรณ์ป้องกันระบบหายใจ ซึ่งจะสามารถกรองอนุภาคได้ขนาดเล็กกว่าหน้ากากอนามัย โดยส่วนใหญ่แล้วจะใช้ในภาคอุสาหกรรมในการลดอนุภาคในอากาศที่มีขนาดเล็กมากๆตั้งแต่ 0.3 ไมครอนขึ้นไป
การส่วมใส่หน้ากาก
หน้ากากอนามัย (Surgical masks)
จะเน้นในการสวมใส่ที่สบายไม่แนบกระชับกับใบหน้า ไม่มีการทดสอบการรั่วไหลบริเวณรอบๆหน้ากาก จึงทำให้อากาศรอบสามารถที่ไม่ถูกกรองสามารถไหลเข้าสู่ระบบหายใจได้
หน้ากากกรองอนุภาค (Respirators masks)
จะเน้นในการสวมใส่ให้กระชับกับใบหน้า มีการทดสอบการรั่วไหลบริเวณรอบๆหน้ากาก เพื่อให้อากาศที่เราหายใจเข้าไปผ่านตัวกรองของหน้ากากทั้งหมด โดยจะไม่รั่วภายช่องว่างระหว่างหน้ากากกับใบหน้า
ประเภทของหน้ากาก | หน้ากากอนามัย | หน้ากากกรองอนุภาค |
รูปภาพ | ||
คุณลักษณะ | การออกแบบสวมใส่ : จะไม่แนบกระชับกับใบหน้า ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างใบหน้ากับหน้ากาก อากาศที่ไม่ผ่านชั้นกรองจึงอาจไหลเข้าสู่ระบบหายใจได้ การดักอนุภาค : จะสามารถกรองอนุภาคใหญ่ เช่น น้ำลาย น้ำมูก ไม่ให้แพร่กระจายออกสู่บรรยากาศภายนอก หรือสภาพแวดล้อมในการทำงาน และช่วยลดความเสี่ยงในการกระเด็นของสารคัดหลั่ง เลือด หรือของเหลวในร่างกายเข้าสู้ผู้ส่วมใส่ ** สามารถป้องกันเชื้อโรคหรืออนุภาคขนาด 5 ไมครอน ** | การออกแบบสวมใส่ : จะกระชับแนบกับใบหน้าผู้ส่วมใส่ เพื่อให้อากาศโดยรอบที่หายใจถูกกีกรองด้วยชั้นกรองของหน้ากากทั้งหมด โดยจะจะไม่สามารถผ่านช่องว่างระหว่างหน่ากากกับใบหน้าได้ การดักอนุภาค : จะสามารถกรองเชื้อโรค หรือ อนุภาคขนาด ที่หายใจเข้าไป เช่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียต่างที่หายใจเข้าไปแล้วทำให้เกิดความเสียหายของระบบทางเดินหายใจ เช่น ไช้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก ไวรัสอีโบล่า และแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรควัณโรค เป็นต้น ** สามารถป้องกันเชื้อโรคหรืออนุภาคขนาก 0.3-0.6 ไมครอน ** |
29 ก.ค. 2559
11 ก.พ. 2564
29 ก.ค. 2559